โรงพยาบาลธนบุรี ตรังThonburi Trang

Call Center : 075 215 215

RSV ในเด็ก: รับมือไวรัสที่ “เหมือนไข้หวัด…แต่ไม่ใช่เล่นๆ”

RSV ในเด็ก: รับมือไวรัสที่ “เหมือนไข้หวัด…แต่ไม่ใช่เล่นๆ”
  

RSV ในเด็ก: รับมือไวรัสที่ “เหมือนไข้หวัด…แต่ไม่ใช่เล่นๆ”

บทความความรู้สำหรับคุณพ่อคุณแม่ – โรงพยาบาลธนบุรี ตรัง

ลูกจามหนึ่งที บ้านทั้งหลังสะดุ้ง—คุ้นมากใช่ไหม? ช่วงเปลี่ยนฤดู RSV (Respiratory Syncytial Virus) ระบาดง่ายในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียน อาการคล้ายหวัดทั่วไป แต่ในทารกและเด็กเล็กอาจลุกลามเป็น หลอดลมฝอยอักเสบ/ปอดอักเสบ ได้รวดเร็ว ต้องรู้ให้ทันและรับมือให้ถูก


RSV คืออะไร?

ไวรัสทางเดินหายใจที่แพร่ผ่านละอองฝอย น้ำมูก น้ำลาย หรือการสัมผัสพื้นผิวปนเปื้อน ทำให้ไอ มีน้ำมูก ไข้ต่ำๆ ในเด็กโตมักหายเอง แต่ ทารกอายุน้อย (<12 เดือน), เด็กคลอดก่อนกำหนด, เด็กโรคหัวใจ/ปอดเรื้อรัง, ภูมิคุ้มกันต่ำ เสี่ยงโรครุนแรงกว่า


อาการที่พบบ่อย

  • ไข้ น้ำมูก ไอ เสมหะข้น

  • ไอถี่ หายใจเร็ว หอบ มีเสียง วี้ด (wheeze)

  • ดูดนม/ทานน้อย ซึม งอแง

  • ในทารกอาจเห็น หยุดหายใจเป็นพักๆ หรือเขียวคล้ำที่ริมฝีปาก/ปลายเล็บ


สัญญาณอันตราย (รีบพบแพทย์ทันที)

  • หายใจเร็ว/อกบุ๋ม/ปีกจมูกบาน หรือ นับหายใจ >50 ครั้ง/นาที ในทารก

  • ไข้สูงลอย >39°C นานเกิน 2–3 วัน หรือชักจากไข้

  • ซึม ไม่ยอมดื่ม ไม่ปัสสาวะนาน >8 ชม. เสี่ยงขาดน้ำ

  • ปากเขียว/ตัวเขียว หยุดหายใจเป็นพักๆ

กฎเหล็ก: ถ้าใจพ่อแม่เริ่มไม่สบายใจ ให้พามาพบแพทย์ อย่ารอดูอาการนาน


ดูแลที่บ้าน: ทำอะไรได้บ้าง (และไม่ควรทำ)

ควรทำ

  • เช็ดตัว ลดไข้ด้วยพาราเซตามอลตามน้ำหนัก (เลี่ยงยาร่วมกลุ่ม NSAIDs ในเด็กเล็กหากไม่จำเป็น)

  • ให้น้ำ/นมบ่อยๆ แบ่งน้อยๆ แต่ถี่

  • ล้างจมูก/ดูดน้ำมูก ช่วยให้หายใจและกินนมดีขึ้น

  • เปิดอากาศถ่ายเท หลีกควันบุหรี่ 100%

เลี่ยง

  • ยาปฏิชีวนะโดยไม่มีข้อบ่งชี้ (RSV คือไวรัส)

  • ยาไอผสมหลายชนิดในเด็กเล็กโดยไม่ปรึกษาแพทย์

  • อยู่ใกล้ผู้ป่วยคนอื่น—แพร่เชื้อง่ายมาก


ป้องกันไม่ให้ “ติดยกบ้าน”

  • ล้างมือ–เช็ดทำความสะอาดของเล่น/ลูกบิดประตูเป็นประจำ

  • สอนเด็กปิดปาก-จมูกเวลาไอจาม และทิ้งทิชชูทันที

  • เลี่ยงพาเด็กเล็กไปที่แออัดช่วงระบาด

  • ให้นมแม่ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน

  • หากผู้ดูแลไม่สบายให้ใส่หน้ากากและงดหอมแก้ม—ขอรักแบบเว้นระยะสักพัก


RSV ต่างจากไข้หวัด/โควิดยังไง?

  • RSV: ไอมาก เสมหะเหนียว หายใจมีเสียงวี้ด พบทารกหายใจลำบากบ่อย

  • ไข้หวัดใหญ่: ไข้สูง ปวดเมื่อยมาก เริ่มทันที

  • โควิด-19: อาการหลากหลายกว่า มีสูญเสียกลิ่น-รสในบางราย การตรวจยืนยันช่วยแยกชัด

แพทย์อาจพิจารณาตรวจทางห้องปฏิบัติการ/เอกซเรย์และอุปกรณ์วัดออกซิเจนตามอาการ


แนวทางป้องกันเชิงรุก 

ปัจจุบันในหลายประเทศมี วัคซีนสำหรับหญิงตั้งครรภ์/ผู้สูงอายุ และมี แอนติบอดีเชิงป้องกันสำหรับทารกกลุ่มเสี่ยง (ให้โดยบุคลากรแพทย์ตามข้อบ่งชี้และช่วงฤดูกาลระบาด) ความเหมาะสมในบริบทประเทศไทยให้ปรึกษากุมารแพทย์เพื่อข้อมูลล่าสุดและการเข้าถึงจริง


เมื่อไหร่ควรมาที่ โรงพยาบาลธนบุรี ตรัง

  • มีสัญญาณอันตรายด้านบน

  • ไข้เกิน 48–72 ชม. หรือกินดื่มไม่ได้

  • เด็กเล็กอายุน้อยกว่า 3 เดือนเริ่มมีไข้/ไอ

  • คุณพ่อคุณแม่ “เอะใจว่าไม่ปกติ”

บริการที่เราพบได้ในการดูแลผู้ป่วยทางเดินหายใจเด็ก
การประเมินโดยกุมารแพทย์, ออกซิเจน/พ่นยาเมื่อจำเป็น, ประเมินระดับออกซิเจน, ให้สารน้ำ, แยกโรคตามดุลยพินิจ และให้คำแนะนำดูแลที่บ้านอย่างเป็นขั้นตอน


คำถามพบบ่อย (FAQ)

Q1: RSV ติดต่ออยู่กี่วัน?
โดยมากแพร่เชื้อได้ตั้งแต่เริ่มมีอาการและต่อเนื่องราว 3–8 วัน บางรายโดยเฉพาะทารกอาจยาวนานกว่านั้น

Q2: เด็กเป็น RSV ต้องนอนโรงพยาบาลทุกคนไหม?
ไม่จำเป็นทุกราย ขึ้นกับอาการ การกินได้/หายใจได้เพียงพอ ระดับออกซิเจน และอายุ หากอาการหนักหรือเสี่ยง ภายใต้ประเมินแพทย์อาจรับไว้สังเกต

Q3: ใช้ยาปฏิชีวนะช่วยไหม?
ไม่ช่วยต่อไวรัส อาจใช้เมื่อมีภาวะแทรกซ้อนจากแบคทีเรียเท่านั้น (พิจารณาโดยแพทย์)

Q4: พ่นยาขยายหลอดลมจำเป็นหรือเปล่า?
ใช้เฉพาะบางรายที่มี wheeze/หลอดลมหดเกร็ง และประเมินว่าได้ประโยชน์

Q5: ลูกไอทั้งคืน นอนยาก ทำอย่างไรดี?
ล้างจมูกก่อนนอน ยกศีรษะเตียงเล็กน้อย ชื้นอากาศพอเหมาะ ให้ดื่มน้ำ/นมบ่อยๆ หากหายใจเร็ว อกบุ๋ม หรือซึม ให้พามาพบแพทย์ทันที